
ห้วยทราย
ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ก็เช่นเดียวกับดินแดนอื่น ๆ อีกมากของประเทศไทย
ที่แต่เดิมเคยเป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้นานาพันธุ์เขียวชะอุ่ม มีสัตว์ป่าโดยเฉพาะ
เนื้อทราย อาศัยตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก จึงเรียกชื่อว่า "ห้วยทราย" และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้ทรงสร้าง "พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน"
หรือป่าเนื้อทราย ขึ้นที่นั่น เมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๗

แต่…ในช่วงเวลาเพียง ๓๐ กว่าปี พื้นที่ห้วยทรายได้ถูกราษฎรเข้าบุกรุกทำลายป่า ปราบพื้นที่เพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมจนไม่เหลือป่าไม้และสัตว์ป่าจึงเกิดความแห้งแล้ง
ฝนไม่ตกตามฤดูกาล และสภาพพื้นดินเสื่อมโทรม ทำการเกษตรกรรมไม่ได้ผล
เมื่อวันที่ ๕
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่
ห้วยทราย มีพระราชดำรัสด้วยน้ำพระราชหฤทัยห่วงใยว่า "หากปล่อยทิ้งไว้
จะกลายเป็นทะเลทรายในที่สุด"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่บริเวณห้วยทราย
เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาด้านป่าไม้อเนกประสงค์
ถ้าขับรถจากกรุงเทพฯ
ไปตามถนนเพชรเกษม ประมาณ ๒๒๐ กิโลเมตร จะพบที่ตั้ง โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย
อันเนื่องมาจากพระราชดำริอยู่ห่างจากชะอำไปางทิศใต้ประมาณ ๑๕ กิโลเมตร จัดเป็นพื้นที่ดำเนินงานตามโครงการ
๑๕,๘๘๒ ไร่ มีสำนักงานโครงการตั้งอยู่ที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการฝึกพิเศษ
(ค่ายพระรามหก) และมีศูนย์สาขาคือ โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม
อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี

การดำเนินงานสนองพระราชดำริในการพัฒนาและฟื้นฟู
"ห้วยทราย" นี้ มีหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมงานจำนวนมาก
เช่น กรมที่ดิน กรมพัฒนาชุมชน กรมป่าไม้ กรมชลประทาน กรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน
กรมปศุสัตว์ ฯลฯ กำหนดแผนงานเป็น ๓ แผน คือ
แผนงานการฟื้นฟูระบบนิเวศน์วิทยาของห้วยทราย
และพื้นที่ใกล้เคียง โดยยึดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้สมดุลย์กับทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่
และสามารถฟื้นฟูให้มีศักยภาพในการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ได้แก่
ระบบนิเวศน์ป่าต้นน้ำ
ฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ให้คืนสภาพป่าต้นน้ำลำธาร
ระบบนิเวศน์พื้นราบ
ฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเกษตรกรรมระบบวนเกษตร
ระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล
ฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ให้คืนสภาพป่าบกและป่าชายเลน
แผนการศึกษาทดลอง
ทำการทดลองศึกษาและวิจัย เพื่อให้ได้รูปแบบและวิธีการที่เหมาะสมในการประกอบอาชีพต่าง
ๆ โดยยึดหลักการที่ว่า ราษฎรอยู่รอดและธรรมชาติก็อยู่รอดด้วย มีการทดลองอนุรักษ์ดินและน้ำ
พันธุ์พืช สัตว์ และปล่อยสัตว์คืนสู่ชีวิตธรรมชาติ ศึกษาหารูปแบบในการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม
เช่น เลี้ยงกบ การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร นำออกเผยแพร่เป็นแบบอย่างแก่ราษฎร
แผนงานการพัฒนาช่วยเหลือประชาชน
เป็นการสนองพระราชดำริที่จะทรงขจัดความยากจน ความทุกข์ลำเค็ญของราษฎรในพื้นที่โครงการ
มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อม พัฒนาอาชีพการเกษตร ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพอุตสาหกรรมในครัวเรือน
เช่น งานจักสาน เจียระไนอัญมณี พัฒนาด้านสุขภาพอนามัย การวางแผนครอบครัว การตั้งศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน
ฯลฯ รวมทั้งพัฒนาพื้นที่ทำการเกษตรของราษฎรให้คืนสู่สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ
การศึกษาวิจัยและการแสดงของศูนย์
เพื่อนำความรู้ออกเผยแพร่สู่ประชาชน มุ่งเน้นการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม สร้างแนวป้องกันไฟป่า
โดยใช้ระบบป่าเปียก เช่น สร้างแนวคูคลอง และพืชเศรษฐกิจสีเขียว มุ่งเน้นให้ราษฎรเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับปรุงและอนุรักษ์ป่า
และสร้างรายได้จากผลิตผลป่าไม้ พร้อมกับเพาะปลูกพืชเกษตรกรรมที่เหมาะสมควบคู่ไปด้วย
กิจกรรมที่น่าสนใจของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ
คือ งานพัฒนาป่าไม้ ปลูกป่า ๓ อย่าง ได้แก่
ไม้โตเร็ว ไม้ผล และไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ สร้างสมดุลทางธรรมชาติของป่าให้คืนสู่สภาพเดิม
การเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าหลายชนิด
โดยเฉพาะเนื้อทราย แล้วปล่อยเข้าสู่ป่า เร่งสมดุลทางธรรมชาติ
การปลูกหญ้าแฝก
เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ปลูกหญ้าแฝกรอบอ่างเก็บน้ำเพื่อป้องกันสารพิษ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มีพระราชปณิธานที่จะให้พื้นที่ "ห้วยทราย"
ที่เคยแห้งแล้ง กลับคืนสู่ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ดุจดั่ง "มฤคทายวัน" ในกาลก่อนเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิเวศน์มฤคทายวันขึ้น
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๖๗ ซึ่ง "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ"
จะเป็นแหล่งธรรมชาติ อำนวยประโยชน์แก่ประชาชนทั้งในชุมชนเมือง และในชนบทอย่างแท้จริงต่อไป
ที่ตั้งโครงการ
ตั้งอยู่ที่ตำบลสามพระยา
อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี บนถนนเพชรเกษม ห่างจากชะอำมาทางทิศใต้ประมาณ ๑๕
กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯ ตามเส้นทางถนนสายเพชรเกษมประมาณ ๒๒๐ กิโลเมตร มีพื้นที่ดำเนินการของโครงการรวมทั้งสิ้น
๑๕,๘๘๒ ไร่ โทร (๐๓๒) ๔๗๑๑๑๐ โทรสาร (๐๓๒) ๔๗๑๑๓๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น